สมรภูมิดูหนังออนไลน์ทะลุเดือด ยักษ์ชนยักษ์พลิกเกมแย่งลูกค้า
สมรภูมิดูหนังออนไลน์แข่งดุ ยักษ์ข้ามชาติผนึก “ค่ายมือถือ-ไฮสปีดเน็ต” ขายพ่วงบริการสร้างฐานลูกค้าไม่หยุด ทั้ง “เน็ตฟลิกซ์-เอชบีโอ-ไอฟลิกซ์-ฮุค-วิว” ถล่มโปรโมชั่นดูฟรีเสริมทัพคอนเทนต์ ฟาก “โมโนแม็กซ์-ไพรมไทม์-ดูนี่” พลิกเกมเจาะกลุ่มแมสหนีปะทะเดือด เชื่อตลาดยังโตได้อีกถ้าคนไทยเลิกดูเว็บเถื่อน
ตลาดบริการเว็บดูหนังในบ้านเรา นับเป็นอีกตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงจากการเข้ามาของขาใหญ่ระดับโลกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เอชบีโอ (HBO) ฮุค (Hooq) รวมถึงวิว (Viu) จากฮ่องกง ซึ่งทุกรายมีความร่วมมือกับค่ายมือถืออย่าง “เอไอเอส” เพื่อขยายฐานลูกค้า ด้วยการนำแพ็กเกจบริการที่มีมาบันเดิลเข้ากับบริการของเอไอเอส มีทั้งให้สิทธิลูกค้าเอไอเอสใช้บริการฟรี ตั้งแต่ 1-3 เดือน รวมไปถึงลดราคา เช่น เปิดเบอร์ใหม่ในระบบรายเดือนมีแพ็กเกจ “เอไอเอส-เน็ตฟลิกซ์” ดูฟรี 3 เดือน เป็นต้น
รายเล็กอยู่ยาก-คนดูไม่มีลอยัลตี้
ดร.กำพล บุริยเมธากุล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการลูกค้า บริษัท ดิจิตอล ซินเนอร์จี จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดูหนังผ่านมือถือ เช่น ไพรมไทม์, ดูนี่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจให้บริการดูหนังออนไลน์ถือว่าค่อนข้างรุนแรง โดยแต่ละรายเน้นความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เช่นร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ต้องการมีคอนเทนต์เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่างรายใหญ่กับรายใหญ่ทำให้ผู้ให้บริการรายเล็กต้องปรับตัว
“ผู้บริโภคไม่มีแบรนด์ลอยัลตี้กับเจ้าใดเจ้าหนึ่ง ทำให้การเพิ่มขึ้นของลูกค้าไม่ต่อเนื่อง อย่างไพรมไทม์ มีสมาชิก 5.5 ล้านคน แต่ผู้ใช้แอ็กทีฟเฉลี่ย 2 แสนราย/เดือน ขึ้นอยู่กับช่วงที่มีโปรโมชั่นทำให้รายได้รวมไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่มาจากการบันเดิลไปกับพาร์ตเนอร์”
ด้านนางสาวอาทิมา สุรพงษ์ชัย หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผู้ให้บริการในประเทศจะทำตลาดแผ่วลง ต่างจากผู้เล่นจากต่างชาติที่ยังทำตลาดต่อเนื่อง เนื่องจากการลงทุนคอนเทนต์มีราคาสูง ขณะที่ผู้เล่นระดับโลกจะกระจายคอนเทนต์ได้หลายประเทศจึงไม่มีภาระด้านต้นทุนมาก และคาดว่าปีนี้ผู้เล่นต่างชาติจะทำตลาดต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และจำนวนประชากร
“ไอฟลิกซ์” ตั้งเป้าโตเท่าตัว
“เราเข้ามาทำตลาดในไทยได้ 3 ปี ถึงวันนี้ตลาดก็ยังไม่นิ่ง ยังเป็นช่วงเรียนรู้ของผู้เล่นแต่ละรายเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่ถูกใจลูกค้า จะเห็นว่าคอนเทนต์ของผู้ให้บริการแต่ละรายจะมีความแตกต่างกัน ต่างมีแนวทางไม่ทับซ้อนกัน ต่างมีแนวทางของตนเอง
ปัจจุบันไอฟลิกซ์มีสมาชิกหลักล้านราย แต่มียอดผู้ใช้แอ็กทีฟต่อเดือนหลักแสนราย เติบโตจากปีที่ผ่านมาแต่ไม่มากนัก ซึ่งปัญหาคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ยังเป็นปัญหาสำคัญ แต่ปีหน้าไอฟลิกซ์ตั้งเป้าโตเท่าตัว โดยยังเน้นความหลากหลายของคอนเทนต์ที่มีกว่า 3 หมื่นชั่วโมง ในราคาค่าบริการ 100 บาท/เดือน และจะปรับฟีเจอร์ให้ใช้ง่ายขึ้นเพื่อแข่งกับของเถื่อน เพราะของเถื่อนใช้งานยาก และเสี่ยงต่อการติดไวรัส
“ผู้บริโภคไทยยังมองว่าคอนเทนต์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเสียเงิน ทำให้ลูกค้าที่ทดลองใช้บริการแล้ว มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่ยอมจ่ายเงินดูต่อ จุดนี้เป็นความท้าทายของไอฟลิกซ์ และผู้ให้บริการทุกราย แนวทางการตลาดของเรายังเน้นร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เช่น ดีแทค และซัมซุง เราไม่ได้แข่งกับผู้ประกอบการด้วยกัน เพราะจำนวนผู้ใช้ของทุกรายรวมกันยังน้อยกว่าของเถื่อนมาก จึงมองว่ากำลังแข่งกับตลาดละเมิดลิขสิทธิ์ที่ไม่มีต้นทุน ในแง่ กม.ไทยยังไม่เข้มงวดเหมือนต่างประเทศ”
“ดูนี่” เน้นพากย์ไทยเจาะแมส
นายจตุพล สุธีสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียเพล็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ “ดูนี่” (DOONEE) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดยังอยู่ในช่วงเติบโต คาดว่าจะโตต่อไปอีก 3-5 ปี เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีผู้ใช้ที่อายุกว้างมากขึ้น แต่ปัญหาสำคัญเป็นเรื่องเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ที่เติบโตเป็นผู้ให้บริการต่างชาติ เนื่องจากมีข้อได้เปรียบในการซื้อคอนเทนต์ ต่างจากบริษัทไทย ทำให้หลายรายต้องปิดตัวไป สำหรับบริษัทให้บริการหลายช่องทาง ทั้งทีวีดิจิทัล, ทีวีดาวเทียม และออนไลน์ จึงได้เปรียบเรื่องต้นทุน แต่ในส่วนออนไลน์ต้องใช้เวลา 2-3 ปีถึงจะเริ่มเห็นรายได้ชัดเจน
“ตอนนี้ถ้าใครจะเข้ามาทำตลาดดูหนังออนไลน์ต้องคิดหนัก เพราะคอนเทนต์ส่วนใหญ่ผู้ให้บริการหลักมีครบ ทำให้ช่องว่างในตลาดแทบไม่มี ทั้งมีปัญหาเว็บเถื่อนก็ได้แต่หวังว่าภาครัฐจะมีมาตรการควบคุม สำหรับบริการของเรามีลูกค้าเพิ่มขึ้น 3 เท่า ปัจจุบันมีลูกค้ารายเดือนหลักหมื่นราย แต่คาดว่าในสิ้นปีหน้าจะถึง 1 แสนราย”
โดยบริษัทเน้นจับมือกับพาร์ตเนอร์ ลูกค้ากว่า 70% มาจากความร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ เช่น เอไอเอส ที่นำบริการไปบันเดิลให้ลูกค้า ซึ่งต่อไปจะมีคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีก ไม่ใช่แค่ดราม่าซีรีส์มีทั้งภาพยนตร์, วาไรตี้, แอนิเมชั่น แต่ยังเน้นเสียงพากย์ไทย และบรรยายภาษาไทยเป็นจุดแข็ง ปัจจุบันมีคอนเทนต์ให้บริการกว่า 10,000 ชั่วโมง
“วิว” งัดดูฟรีสู้ของเถื่อน
นายธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการดูหนัง HD “Viu” กล่าวว่า ตลาดดูหนังออนไลน์ยังมีโอกาสโต เนื่องจากไทยเป็นตลาดใหญ่ที่มีผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ตกว่า 40 ล้านคน แต่เหนื่อยเพราะคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ หากกฎหมายเข้มงวดจะทำให้ผู้เล่นแต่ละรายโตเร็วขึ้น และกล้าลงทุนคอนเทนต์มากขึ้น โดยบริษัทจะโฟกัสคอนเทนต์เอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีเป็นหลัก จึงยังไม่มีคู่แข่งตรง ๆ
ปัจจุบันให้บริการใน 15 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และประเทศไทย เป็นต้น มียอดผู้ใช้รวม 12 ล้านราย มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น 18.6 ล้านครั้ง มีการรับชมเฉลี่ยต่อคน/สัปดาห์ 14.7 วิดีโอ สำหรับในไทยเข้ามาทำตลาดเดือน พ.ค. มียอดดาวน์โหลด 1.5 ล้านครั้ง มีจำนวนวิดีโอที่ชม/คน/สัปดาห์ 17 วิดีโอ จากคอนเทนต์กว่าหมื่นชั่วโมง
โดยคอนเทนต์ที่มีเน้นซีรีส์ และรายการวาไรตี้ กลุ่มลูกค้าจะอายุ 18-35 ปี โดย 90% เป็นคอนเทนต์เกาหลี มีจุดเด่นที่ดูได้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังรายการนั้นออกอากาศในประเทศนั้น หรือเร็วสุดใน 1 ชั่วโมงมีทั้งแบบดูฟรี และเสียเงิน โดยแบบเสียเงินจะดูได้ใน 24 ชั่วโมง และภาพคมชัดกว่า ส่วนดูฟรีมีข้อจำกัดเรื่องความเร็วในการรับชมที่ต้องรอ 72 ชั่วโมง และไม่สามารถดู “ฟูลเอชดี” ได้ มีโฆษณาคั่น และไม่สามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ได้
“การทำตลาดเน้นจับมือกับพาร์ตเนอร์ เพราะต้องการเจาะกลุ่มเฉพาะ เช่น เอไอเอส เป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์ เราให้ดูฟรี 3 เดือน สำหรับลูกค้า zeedsim และลดค่าบริการจาก 119 บาท/เดือน เหลือ 99 ในลูกค้าเอไอเอสทั่วไป และมีแพ็กเกจดูรายวันเริ่มต้นที่ 4-19 บาท ทั้งร่วมกับเว็บไซต์พันทิปเปิดห้อง “กรุงโซล” เพื่อแบ่งปันกระทู้ที่พร้อมแชร์เรื่องบันเทิงเกาหลี และสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของศิลปิน K-Pop เพื่อสร้างแบรนด์เลิฟ”
“โมโนแม็กซ์” เพิ่มการ์ตูน
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโนฟิล์ม จำกัด ในเครือโมโน กรุ๊ป ผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ “โมโนแม็กซ์” เปิดเผยว่า บริษัทยังเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ ต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือค่ายการ์ตูนคลับนำการ์ตูนซีรีส์ “Doubutsu Sentai Zyuohger” มาให้บริการเป็นรายเดียวในไทยที่มีสิทธิ์แบบ exclusive และในอนาคตจะมีคอนเทนต์ประเภทนี้เข้ามามากขึ้น เพื่อขยายฐานคนดูในกลุ่มอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป จากปัจจุบันมีคลังหนัง 2,000 กว่าเรื่อง รวมกว่า 14,000 ชั่วโมง ทั้งหนังแอ็กชั่น, ไซไฟ-แฟนตาซี, หนังโรแมนติก และกลุ่มซีรีส์ทั้งอเมริกัน, ซีรีส์จีน, ซีรีส์เกาหลี, การ์ตูน, ทีวีโชว์, มิวสิกวิดีโอ และสารคดี ครอบคลุมฐานคนดูหนังออนไลน์ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย คิดค่าบริการ 129 บาท/เดือน
“ปีที่แล้วเว็บดูหนัง ยอดสมาชิกโตถึง 50% จากกลุ่มผู้ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนตามจำนวนสมาร์ทโฟนในไทยที่มีผู้ใช้กว่า 20 ล้านเลขหมาย และมีการดีลกับเจ้าของคอนเทนต์เพิ่มความหลากหลาย และจับกลุ่มคนดูทุกระดับ ทุกกลุ่มเป้าหมาย”
https://www.prachachat.net/ict/news-93803
EmoticonEmoticon